“Infinix Zero 5G” เล่นเกมลื่น แบตอึด ราคาไม่ถึงหมื่น ผู้ใช้งานบางส่วนอาจไม่คุ้นหูกับชื่อแบรนด์ Infinix เท่าไรนัก แต่เมื่อลองติดตามดูสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่วางจำหน่ายพบว่าเป้าหมายการใช้งานหลักคือ การเล่นเกมส์มือถือ ที่รองรับกลุ่มเป้าหมายมากมายด้วยระดับราคาที่ต่างกัน
ข้อมูลเบื้องต้น
สมาร์ทโฟน Infinix Zero 5G มีทั้งหมด 3 สีได้แก่ Cosmic Black, Horizon Blue และSkylight Orange ตัวเครื่องมีขนาดที่ 168.7 x 76.5 x 8.8 มม. น้ำหนัก 199 ก. โดยมีข้อมูลเบื้องต้นดังนี้
(1) ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek MT6877 Dimensity 900 บนกระบวนการผลิต 6 nm ควบคู่จีพียู Mali-G68 MC4 โดยมีหน่วยความจำ(RAM) และพื้นที่เก็บข้อมูล(ROM) คือ 8GB I 128GB รวมถึงรองรับไมโครเอสดีการ์ดความจุสูงสุดที่ 256GB
(2) รองรับความเร็วของเครือข่ายอินเตอร์เน็ตสูงสุดที่ 5G และระบบซิมคู่ชนิดนาโนซิม รวมถึงรองรับสัญญาณ Wi-Fi 6
(3) แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 33W โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการอ้างว่าการชาร์จแบตเตอรี่หนึ่งครั้งสามารถเปิดเครื่องรอใช้งาน (standby time) สูงสุดที่ 27 วัน
(4) จอภาพ IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ FHD+ (1080 x 2460) และมีค่าความสว่างสูงสุดที่ 500 นิต
(5) กล้องหน้าความละเอียด 16MP และกล้องหลัง 3 เลนส์ประกอบด้วย เลนส์ไวด์ 48MP, เทเลโฟโต้ 13MP และ มาโคร 2MP โดยสามารถบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดสูงสุดคือ 1080p ที่ 30 fps ในกล้องหน้า และ 4K ที่ 30 fps ในกล้องหลัง
สมาร์ทโฟนเล่นเกมเพลินพร้อมราคาสบายกระเป๋า
ความลื่นไหลในการเล่นเกมส์เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องของผู้ใช้งานหลายคน โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใช้ชิปเซ็ต MediaTek MT6877 Dimensity 900 ที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานดังกล่าวส่งผลให้สามารถเปิดแอพลิเคชันได้เร็วและเล่นเกมลื่น ส่วนระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่มีตัวรับสัญญาณ Wi-Fi 6 ซึ่งเกี่ยวกับระดับ Ping ในการเล่นเกมส์ออนไลน์ และรองรับ 5G แบบสองซิมที่ทำให้สามารถสลับใช้สัญญาณที่ดีกว่าอย่างไร้รอยต่อ ส่วนจอภาพมีขนาด 6.78 นิ้ว
รวมถึงจอภาพที่มีอัตรารีเฟรชเรทสูงสุดที่ 120Hz เหมาะสำหรับการเล่นเกมส์ในหลายประเภทที่ภาพรวมผู้ใช้งานจะสามารถมองเห็นภาพเต็มตาและภาพเคลื่อนไหวอันนวลตา หากกรณีบางเกมส์มีระดับกราฟิกสูงจึงต้องการแรมเพิ่มขึ้น สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังมีรองรับระบบ External RAM คือการดึงพื้นที่ความจำของรอมมาจนได้แรมทั้งหมดเป็น 13GB (เพิ่มเติม: การใช้งานดังกล่าวจะทำให้เครื่องร้อนขึ้น) ส่วนแบตเตอรี่มีความจุมากเพียงพอที่ทำให้สามารถเล่นเกส์ต่อเนื่องสูงสุดที่ 9 ชั่วโมง ใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่ไม่นานเกินไป และมีระบบตรวจสอบกับระบายความร้อนอีกด้วย ราคาจำหน่ายที่ 7,999 บาท
ขอบคุณรูปภาพจาก ช่องยูทูป Infinix India
#แกดเจ็ตน่าใช้ #อัพเดทข่าวไอที #Infinix Zero 5G