“Samsung Galaxy Watch4 Classic” สมาร์ทวอชสุดสวยจากแดนเกาหลีที่มากกว่านาฬิกา นอกเหนือจากเทคโนโลยีของสมาร์ทโฟนในปัจจุบันที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องขณะเดียวกันเหล่าเครื่องประดับ(accessories) เช่น นาฬิกา แว่นตา สายรัดข้อมือ ถูกผู้พัฒนาบรรจุเทคโนโลยีต่างๆ เข้าไปในอุปกรณ์ดังกล่าวจนกลายเป็น smartwatch, smartglasses, หรือ smartband ซึ่งเข้ามาช่วยเพิ่มลูกเล่นและตอบช่องโหว่บางประการที่สมาร์ทโฟนไม่สามารถทำได้อีกด้วย ดังนั้นผู้เขียนจึงมาบอกเล่าข้อมูลและคุณสมบัติที่โดดเด่นกัน
ข้อมูลเบื้องต้น
สมาร์ทวอช Samsung Galaxy Watch4 Classic ตัวเรือนมีทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Black และ Silver พร้อมการออกแบบที่หรูหราและทันสมัย ตัวเครื่องทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลาง 45.5 มม. ความหนา 11 มม. น้ำหนัก 52 ก. ส่วนตัวเรือนใช้เค้าโครงจากวัสดุเหล็กกล้าหรือไทเทเนี่ยม นอกเหนือจากหน้าจอที่เป็นตัวเครื่องผู้ใช้งานสามารถเลือกสรรค์สายนาฬิกาได้อย่างหลากหลายเพื่อบ่งบอกความเป็นตนเองใน THOM BROWNE EDITION
(1) จอภาพ Super AMOLED ขนาด 1.4” ซึ่งมีความละเอียด 450 x 450 พิกเซล ใช้กระจกป้องกันรอยจากแบรนด์ Corning Gorilla Glass รุ่น DX และรองรับระบบ Always-on display โดยไม่จำเป็นต้องขยับข้อมือหรือแตะหน้าจอเพื่อเรียกดูเวลาอีกต่อไป
(2) รองรับการใช้งานบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตสูงสุดที่ 4G ซึ่งเป็น eSIM คือ ซิมดิจิทัลที่สามารถเรียกการใช้งานอินเตอร์เน็ตโดยไม่ต้องบรรจุซิมกายภาพในตัวเครื่อง ส่วนการเชื่อมต่อนั้นรองรับ Wi-Fi, Bluetooth 5.0, และ NFC
(3) ใช้หน่วยประมวลผล Exynos W920 จัดอยู่ในประเภท Dual-core พร้อมกับหน่วยความจำ(RAM)ที่ 1.5GB ส่วนตัวเก็บข้อมูลมีความจุ(ROM)ที่ 16GB และไม่รองรับตัวเก็บข้อมูลภายนอก (
4) แบตเตอรี่ความจุ 309mAh และใช้การชาร์จแบบไร้สายมาตรฐาน Qi wireless charging สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่เต็มหนึ่งครั้งสมาร์ทวอชสามารถเตรียมพร้อม(standby)นานสูงสุดถึง 26-29 ชั่วโมง
“เป็นมากกว่านาฬิกาที่ดูดีเรือนหนึ่ง” รองรับทุกการใช้งานตามจังหวะชีวิตของผู้ใช้งาน
สมาร์ทวอชคืออุปกรณ์หนึ่งที่ลดช่องว่างของการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน เพราะในบางจังหวะเวลาผู้ใช้งานไม่สามารถพกสมาร์ทโฟนติดตัวได้ ยกตัวอย่าง การประชุมสำคัญกับผู้บริหารบริษัท แต่คุณก็ยังมีอีเมล์สำคัญที่ต้องตอบ ดังนั้นสมาร์ทวอชอย่าง Samsung Galaxy Watch4 Classic จะช่วยให้คุณสามารถพิมพ์ตอบอีเมล์ได้อย่างง่ายดาย
อีกทั้งสามารถตกแต่งหน้าปัดนาฬิกาให้สวยงามทุกครั้งที่สังเกตเวลา รวมถึงกิจกรรมเน้นการเคลื่อนไหวอย่างการเล่นกีฬาทั่วไปหรือแบบผาดโผน เพราะตัวเรือนสามารถป้องกันน้ำได้ในความลึกสูงสุดที่ 50 เมตร จึงหมดปัญหาเรื่องน้ำเหยื่อเข้าตัวเรือนได้เลย ขณะเดียวกันยังมีเซ็นเซอร์ที่สามารถวัดระดับออกซิเจน อัตราการเต้นของหัวใจ ฯลฯ เพื่อติดตามผลการออกกำลังกายของผู้ใช้งานที่มีโหมดการวัดผลสำหรับกีฬาแต่ละประเภทด้วยซอฟท์แวร์มากมาย เช่น การวิเคราะห์การนอนของผู้ใช้งาน โหมดติดตามการออกกำลังกาย
ขอบคุณภาพจาก ช่องยูทูป Samsung UK
#Samsung Galaxy Watch4 Classic #แกดเจ็ตน่าใช้ #อัพเดทข่าวไอที