อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) หรือ IoT หมายถึงอินเตอร์เน็ตของอุปกรณ์หรือวัตถุซึ่งมีเซ็นเซอร์ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีอื่นๆ ถูกฝังอยู่ในตัวมัน เพื่อการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต และใช้ประโยชน์ในรูปแบบของอุปกรณ์อัจฉริยะ
Internet of Things ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการเชื่อมโยงกันของเทคโนโลยีหลายอย่าง เช่น Machine Learning, Realtime Analytic, Commodity Sensors และ Embedded System
ยกตัวอย่าง เช่น เครือข่ายเซ็นเซอร์ไร้สาย, ระบบควบคุมแบบอัตโนมัติ สิ่งเหล่านี้ต่างใช้งานคุณสมบัติของ Internet of Things
Internet of Things ทำให้เกิดอุปกรณ์อัจฉริยะ
สำหรับประชาชนทั่วไป คงจะคุ้นเคยมากที่สุดกับความสามารถของบ้านอัจฉริยะ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบอัจฉริยะ เช่นหลอดไฟอัจฉริยะ, ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน, กล้องถ่ายรูปและเครื่องใช้ในบ้านอื่นๆ ที่รองรับระบบนิเวศ (Ecosystem) และสามารถควบคุมผ่านอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศนั้น เช่น สมาร์ทโฟนและลำโพงอัจฉริยะ นอกจากนี้ Internet of Things ยังใช้ประโยชน์ในระบบการดูแลสุขภาพของมนุษย์
ผลกระทบจากการเติบโตของ IoT อาจสร้างความกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ดังนั้นจึงมีการขับเคลื่อนของภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐเพื่อจัดการกับความกังวลเหล่านี้รวมถึงการพัฒนามาตรฐานสากลของ IoT ด้วย
มีการให้คำจำกัดความของ Internet of Things ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเวลาที่สิ่งของหรือวัตถุเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมากกว่ามนุษย์ธรรมดา ประมาณการว่า IoT นั้นถือกำเนิด ระหว่างปี 2008 ถึง 2009
การเชื่อมต่อสิ่งที่มีอยู่จริงกับอินเทอร์เน็ตทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเซ็นเซอร์และควบคุมอุปกรณ์และวัตถุทางกายภาพได้จากระยะไกล การผสมผสานข้อมูลที่ตรวจจับได้ในอุปกรณ์นั้นกับข้อมูลที่ดึงมาจากแหล่งอื่นเช่นการผสานกับข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บ ก่อให้เกิดการทำงานแบบใหม่ที่ไปไกลกว่าการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเฉพาะอุปกรณ์หรือวัตถุที่แยกออกเป็นอิสระอย่างเดียว
Internet of Things ทำงานได้ตรงตามวิสัยทัศน์นี้ วัตถุอัจฉริยะซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของ Internet of Things เป็นเพียงชื่อหนึ่งของระบบฝังตัวที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต มีเทคโนโลยีอื่นที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันที่เห็นได้ง่ายคือเทคโนโลยี RFID ซึ่งเป็นส่วนขยายของบาร์โค้ดออปติคอลที่มีใช้งานกันอย่างแพร่หลายงานอย่างแพร่หลาย
ในความหมายที่กว้างคำว่า IoT ครอบคลุมทุกสิ่งที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่อุปกรณ์ที่มีเซ็นเซอร์ธรรมดาไปจนถึงสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ที่มนุษย์สวมใส่ได้ให้เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
ด้วยการรวมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเหล่านี้เข้ากับระบบอัตโนมัติ Internet of Things จึงสามารถรวบรวมข้อมูล, วิเคราะห์และดำเนินการ เพื่อช่วยด้านการทำงานเฉพาะด้านหรือด้านเรียนรู้จากกระบวนการต่างๆ
Internet of Things ทำให้โลกของการใช้อินเตอร์เน็ตมีศักยภาพมากขึ้น
Internet of Things ช่วยให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบปิดสามารถสื่อสารกับระบบอื่นได้และนำเครือข่ายเหล่านั้นมารวมกัน มันเปิดโอกาสให้อุปกรณ์ต่างๆสื่อสารกันได้ไม่เพียงแต่ภายในโรงเก็บของเดียวกันเท่านั้น แต่ยังสามารถสื่อสารข้ามเครือข่ายประเภทต่างๆ และเชื่อมต่อกันกับโลกภายนอกได้
ในงานด้านอุตสาหกรรม เซ็นเซอร์บนสายผลิตภัณฑ์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลิตภัณฑ์ที่เสียหายได้ ตัวอย่างเช่น บริษัท Concrete Sensors บริษัทในสหรัฐอเมริกาได้สร้างอุปกรณ์ที่สามารถสอดเข้าไปในคอนกรีตเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพของวัสดุได้ เป็นต้น
ด้วยคุณภาพและขอบเขตของข้อมูลใน Internet of Things ทำให้เปิดโอกาสสำหรับการโต้ตอบกับอุปกรณ์ตามบริบทที่มนุษย์ต้องการการตอบสนองได้มากขึ้น เพื่อสร้างศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ของอุปกรณ์ต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต
#InternetofThings #IoT #อัพเดทข่าวไอที