อินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things) หรือ IoT หมายถึงอินเตอร์เน็ตของอุปกรณ์หรือวัตถุซึ่งมีเซ็นเซอร์ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีอื่นๆ ถูกฝังอยู่ในตัวมัน เพื่อการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ผ่านทางอินเทอร์เน็ต และใช้ประโยชน์ในรูปแบบของอุปกรณ์อัจฉริยะ
Internet of Things ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการเชื่อมโยงกันของเทคโนโลยีหลายอย่าง เช่น Machine Learning, Realtime Analytic, Commodity Sensors และ Embedded System
ยกตัวอย่าง เช่น เครือข่ายเซ็นเซอร์ไร้สาย, ระบบควบคุมแบบอัตโนมัติ สิ่งเหล่านี้ต่างใช้งานคุณสมบัติของ Internet of Things
![](https://groundcontrolconf.com/wp-content/uploads/2021/10/Internet-of-Things-คืออะไร-2.jpg)
Internet of Things ทำให้เกิดอุปกรณ์อัจฉริยะ
สำหรับประชาชนทั่วไป คงจะคุ้นเคยมากที่สุดกับความสามารถของบ้านอัจฉริยะ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบอัจฉริยะ เช่นหลอดไฟอัจฉริยะ, ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน, กล้องถ่ายรูปและเครื่องใช้ในบ้านอื่นๆ ที่รองรับระบบนิเวศ (Ecosystem) และสามารถควบคุมผ่านอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศนั้น เช่น สมาร์ทโฟนและลำโพงอัจฉริยะ นอกจากนี้ Internet of Things ยังใช้ประโยชน์ในระบบการดูแลสุขภาพของมนุษย์
ผลกระทบจากการเติบโตของ IoT อาจสร้างความกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ดังนั้นจึงมีการขับเคลื่อนของภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐเพื่อจัดการกับความกังวลเหล่านี้รวมถึงการพัฒนามาตรฐานสากลของ IoT ด้วย
มีการให้คำจำกัดความของ Internet of Things ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเวลาที่สิ่งของหรือวัตถุเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตมากกว่ามนุษย์ธรรมดา ประมาณการว่า IoT นั้นถือกำเนิด ระหว่างปี 2008 ถึง 2009
การเชื่อมต่อสิ่งที่มีอยู่จริงกับอินเทอร์เน็ตทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเซ็นเซอร์และควบคุมอุปกรณ์และวัตถุทางกายภาพได้จากระยะไกล การผสมผสานข้อมูลที่ตรวจจับได้ในอุปกรณ์นั้นกับข้อมูลที่ดึงมาจากแหล่งอื่นเช่นการผสานกับข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บ ก่อให้เกิดการทำงานแบบใหม่ที่ไปไกลกว่าการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในเฉพาะอุปกรณ์หรือวัตถุที่แยกออกเป็นอิสระอย่างเดียว
![](https://groundcontrolconf.com/wp-content/uploads/2021/10/Internet-of-Things-คืออะไร-3.jpg)
Internet of Things ทำงานได้ตรงตามวิสัยทัศน์นี้ วัตถุอัจฉริยะซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของ Internet of Things เป็นเพียงชื่อหนึ่งของระบบฝังตัวที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต มีเทคโนโลยีอื่นที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันที่เห็นได้ง่ายคือเทคโนโลยี RFID ซึ่งเป็นส่วนขยายของบาร์โค้ดออปติคอลที่มีใช้งานกันอย่างแพร่หลายงานอย่างแพร่หลาย
ในความหมายที่กว้างคำว่า IoT ครอบคลุมทุกสิ่งที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่อุปกรณ์ที่มีเซ็นเซอร์ธรรมดาไปจนถึงสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ที่มนุษย์สวมใส่ได้ให้เชื่อมต่อเข้าด้วยกัน
ด้วยการรวมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเหล่านี้เข้ากับระบบอัตโนมัติ Internet of Things จึงสามารถรวบรวมข้อมูล, วิเคราะห์และดำเนินการ เพื่อช่วยด้านการทำงานเฉพาะด้านหรือด้านเรียนรู้จากกระบวนการต่างๆ
![](https://groundcontrolconf.com/wp-content/uploads/2021/10/Internet-of-Things-คืออะไร-4.jpg)
Internet of Things ทำให้โลกของการใช้อินเตอร์เน็ตมีศักยภาพมากขึ้น
Internet of Things ช่วยให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบปิดสามารถสื่อสารกับระบบอื่นได้และนำเครือข่ายเหล่านั้นมารวมกัน มันเปิดโอกาสให้อุปกรณ์ต่างๆสื่อสารกันได้ไม่เพียงแต่ภายในโรงเก็บของเดียวกันเท่านั้น แต่ยังสามารถสื่อสารข้ามเครือข่ายประเภทต่างๆ และเชื่อมต่อกันกับโลกภายนอกได้
ในงานด้านอุตสาหกรรม เซ็นเซอร์บนสายผลิตภัณฑ์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลิตภัณฑ์ที่เสียหายได้ ตัวอย่างเช่น บริษัท Concrete Sensors บริษัทในสหรัฐอเมริกาได้สร้างอุปกรณ์ที่สามารถสอดเข้าไปในคอนกรีตเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพของวัสดุได้ เป็นต้น
ด้วยคุณภาพและขอบเขตของข้อมูลใน Internet of Things ทำให้เปิดโอกาสสำหรับการโต้ตอบกับอุปกรณ์ตามบริบทที่มนุษย์ต้องการการตอบสนองได้มากขึ้น เพื่อสร้างศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ของอุปกรณ์ต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต
#InternetofThings #IoT #อัพเดทข่าวไอที