vivo X80” สมาร์ทโฟนกล้องสวย สายถ่ายภาพไม่ควรพลาด สมาร์ทโฟนตัวท็อปจากแบรนด์วีโว่ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาและสร้างแรงสั่นสะเทือนในกระเป๋าเงินของผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้ไม่น้อย

ข้อมูลเบื้องต้น

สมาร์ทโฟน vivo X80 มีทั้งหมด 2 สีได้แก่ Cosmic Black และ Urban Blue ตัวเครื่องมีขนาดที่ 165 x 75.2 x 8.3 มม. น้ำหนัก 206 ก. โดยมีข้อมูลเบื้องต้นดังนี้ 

(1) ใช้หน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 9000 บนกระบวนการผลิต 4 nm ควบคู่จีพียู Mali-G710 MC10 โดยมีหน่วยความจำ(RAM)กับพื้นที่เก็บข้อมูล(ROM) คือ 12GB I 256GB แต่ไม่รองรับไมโครเอสดีการ์ด 

(2) รองรับความเร็วของเครือข่ายอินเตอร์เน็ตสูงสุดที่ 5G และระบบซิมคู่ชนิดนาโนซิม 

(3) แบตเตอรี่ความจุ 4500 mAh รองรับการชาร์จเร็วสูงสุด 80W และรองรับการชาร์จแบตเตอรี่จากสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นหรือระบบ Reverse charging ได้อีกด้วย โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการอ้างว่าการชาร์จแบตเตอรี่จากศูนย์ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ภายในเวลา 11 นาที 

(4) จอภาพพาเนลแบบ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ FHD+ (1080 x 2400) อัตรารีเฟรชเรทสูงสุดที่ 120 Hz และค่าความสว่างสูงสุดที่ 1000 นิต 

(5) กล้องหน้าความละเอียด 32MP และกล้องหลัง 3 เลนส์ประกอบด้วย เลนส์ไวด์ 50MP, อัลตราไวด์ 12MP และเทเลโฟโต้ 12MP โดยสามารถบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดสูงสุดคือ 1080p ที่ 30 fps และ 4K ที่ 30fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

สมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่เน้นคุณภาพของกล้องถ่ายภาพ

เริ่มต้นที่รูปลักษณ์ภายนอกของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้มีการออกแบบที่โดดเด่นอย่างแผงกล้องสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือฝาหลังใช้วัสดุเป็นหนังแบบอีโคที่ผิวสัมผัสนุ่มคล้ายหนังและเนียนคล้ายวัสดุเนื้อด้าน (matte) ซึ่งเพิ่มความหรูหราเมื่อจับถือไม่ใช่น้อย ถัดมาเป็นกล้องถ่ายภาพที่เรียกได้ว่าเป็นจุดขายของสมาร์ทโฟนเครื่องนี้ด้วยการร่วมมือพัฒนากับบริษัท ZEISS ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเลนส์ถ่ายภาพ เช่น การเคลือบเลนส์แสงหลอก (ghosting) ที่เกิดขึ้นเมื่อถ่ายภาพหันเข้าหาแสงอาทิตย์ หนึ่งในโหมดที่น่าสนใจคือ ZEISS Cinematic Video Bokeh ช่วยปรับโทนแสงให้เป็นธรรมชาติเหมือนกับการถ่ายภาพยนตร์

ควบคู่กับเซนเซอร์ IMX866 ช่วยลดนอยส์ของภาพเพื่อให้ได้รายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นมากมายที่คอยเสริมการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ เช่น ระบบกันภาพสั่นแบบ OIS หรือระบบเอไอที่ช่วยปรับแต่งโทนผิวและความสว่างในพื้นที่แสงน้อย ส่วนการเล่นเกมส์ก็สามารถเล่นอย่างลื่นไหลด้วยชิป Dimensity 9000 ที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Snapgragon 8 Gen 1 ส่วนการใช้งานทั่วไปอย่างการชมวิดีโอหรือทำงานก็สบายเมื่อใช้ในพื้นที่กลางแจ้งด้วยความสว่างหน้าจอ 1000 นิต พร้อมลำโพงคู่แบบสเตอริโอ ราคาจำหน่ายที่ 29,999 บาท

ขอบคุณรูปภาพจาก https://unsplash.com

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *